ลาวคำหอม ดวงพร ผาสุข Zansab Orchestra เกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2473 ที่บ้านหนองสะอาด อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 7 คน ของนายสวย และนางขำ ศรีนอก ซึ่งมีอาชีพทำนา
จบชั้นมัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนประจำอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ต่อมาสอบเทียบชั้นมัธยมตอนปลายได้จึงสมัครเข้าเรียนที่แผนกวิชาการหนังสือพิมพ์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ซึ่งในขณะนั้น คณะอักษรศาสตร์เป็นผู้รับผิดชอบหลักสูตร 2 ปี จนได้รับประกาศนียบัตรวิชาการหนังสือพิมพ์
ในช่วงพ.ศ. 2493 – 2494 เริ่มงานหนังสือพิมพ์ด้วยการเป็นผู้สื่อข่าวการเมืองหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” รายวันและเขียนเรื่องสั้นในนาม ค.ส.น. ลงพิมพ์ใน แนวหน้า ฉบับ วันจันทร์ สลับกับเพื่อนคนหนึ่ง พอต้นปี 2495 ได้เดินทางไปรับราชการเป็นพนักงานป่าไม้เขตจังหวัดเชียงใหม่แต่ได้ประจำอยู่ที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน จนกระทั่งพ.ศ.2499 ลาออกจากพนักงานป่าไม้ กลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ เป็นผู้ช่วยนักวิจัยให้กับสถาบันค้นคว้าของมหาวิทยาลัยคอร์แนล สหรัฐอเมริกา และในช่วงนี้ได้กลับมาเขียนเรื่องสั้นอีกครั้งหลังจากที่ได้เคยเขียนเมื่อตอนทำหนังสือพิมพ์มาบ้างแล้วโดยเริ่มต้นที่หนังสือพิมพ์ “ปิยมิตร” รายสัปดาห์ ใช้นามปากกา “ลาว คำหอม “เป็นครั้งแรก เพราะต้องการเลือกคำไทยพื้นๆที่บอกเป็นนัยถึงความเป็นสามัญ และพื้นแพเดิมของตนเองที่เกิดมาในครอบครัวที่พูดภาษาลาว เมื่อถึงพ.ศ.2500 รวบรวมได้ 8 เรื่อง เพื่อนยุให้พิมพ์เป็นเล่ม แต่ไม่มีสำนักพิมพ์สนใจจึงร่วมกับเพื่อนทำสำนักพิมพ์ “เกวียนทอง” จัดพิมพ์เรื่อง “ข้าพเจ้าได้เห็นมา” ของ “ศรีบูรพา” เป็นเล่มแรก และ “ปีศาจ” ของเสนีย์ เสาวพงศ์ เป็นเล่มที่สอง แล้วพิมพ์รวมเรื่องสั้น “ฟ้าบ่กั้น” ของ “ลาว คำหอม” เป็นเล่มถัดมา หลังจากนั้นไม่นาน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ปฏิวัติ ปิดหนังสือพิมพ์ไปเกือบทั้งหมด นักเขียนนักหนังสือพิมพ์ถูกจับกันมาก คำสิงห์ ศรีนอก จึงเก็บหนังสือที่เหลือ ไปทำไร่ทำสวนอยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหงัดนครราชสีมา เมื่อบรรยากาศทางการเมืองคลี่คลาย ก็เขียนเรื่องสั้นในนามลาว คำหอม บ้างเป็นครั้งคราว เรื่องสั้นในชุด ฟ้าบ่กั้น ได้รับการพิมพ์ซ้ำในวารสารชมรมวรรณศิลป์ ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ บ้าง โดยไม่ทราบว่าผู้เขียนคือใคร จนกระทั้งต้นปี 2510 สุลักษณ์ ศิวรักษ์ กับพรรคพวกเข่น อังคาร กัลยาณพงศ์ สุวรรณี สุครธา เทพศิริ สุขโสภา ฯลฯ ไปเยี่ยมที่ไร่ปากช่อง สุวรรณี สุคนธา ไปหยิบรวมเรื่องสั้น “ฟ้าบ่กั้น” ที่กองสุมอยู่มุมหนึ่งมาเปิดอ่าน แล้วถามหาตัวผู้เขียนและชมว่าเขียนดี สุลักษณ์ ศิวรักษ์ จึงรับปากจะพิมพ์ใหม่ เทพศิริ สุขโสภาอาสาเขียนปกและภาพประกอบ ทำให้ “ฟ้าบ่กั้น” ได้รับการจัดพิมพ์ใหม่อย่างสวยงามโดยสำนักพิมพ์ ศึกษิตสยาม เมื่อต้นปี 2512 สร้างชื่อเสียงให้แก่ “ลาว คำหอม” อย่างกว้างขวาง ได้รับการพิมพ์ซ้ำในโอกาสต่อมานับสิบครั้งมีการแปลทั้งเล่มเป็นภาษาอังกฤษ สวีเดน และเดนาร์ก และแปลไปพิมพ์บางส่วนเป็นภาษาเยอรมัน ญี่ปุ่น บุลกาเรียและสเปน
พ.ศ.2513 คำสิงห์ ศรีนอก สมรสกับนางประพีร์ ศรีนอก มีบุตรสาว 3 คนคือ เตือน คำหอม และภูเพียง ศรีนอก และเนื่องจากหันมาสนใจกิจกรรมทางการเมืองมากขี้นเมื่อเหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 จึงต้องพาครอบครัวที่มีลูกสาวคนโตย่างห้าขวบ และคนเล็กเพิ่มเกิดได้สามเดือนเข้าป่า และขอลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศสวีเดนระหว่าง พ.ศ.2519 – 2523 ได้รับเกียรติให้เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนสวีเดน เพื่อทำงานด้านการเขียนและการแปล
พ.ศ. 2524 อพยพครอบครัวเดินทางหลับประเทศไทย ไปพำนักอยู่ที่ไร่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาเช่นเดิม พร้อมกับเขียนเรื่องสั้น นวนิยาย และสารคดี มาเรื่อยๆแม้จะมีผลงานไม่มากนัก แต่ล้วนมีคุณภาพสูง