พระประดิษฐ์ไพเราะ (ครูมีแขก)
พระประดิษฐ์ไพเราะ (ครูมีแขก)
นามเดิม มี ดุริยางกูร คนทั่วไปมักเรียกท่านว่า ครูมีแขก เล่ากันว่า เมื่อคลอดออกมาใหม่ๆ มีสิ่งขาวๆ ครอบอยู่บนศรีษะคล้ายๆ หมวกแขก เลยเรียก มีแขก ต่อมาก็เป็นครูมีแขก บ้านเดิมท่านอยู่ในบริเวณสุเหร่าเหนือวัดอรุณราชวราราม
ครูมีแขก มีชีวิตอยู่ในรัชกาลที่ ๓ ถึงรัชกาลที่ ๕ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงประดิษฐ์ไพเราะ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๓๙๖ ต่อมาในวันที่ ๒๑ ธันวาคมปีเดียวกันท่านได้บรรเลงเพลงเชิดจีน ซึ่งแต่งไว้ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯและพระองค์ทรงโปรดปรานมาก ถึงกับได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น พระประดิษฐ์ไพเราะ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ท่านเป็นหลวง เพียงเดือนเดียวเท่านั้น
พระประดิษฐ์ไพเราะ เป็นครูดนตรีไทยคนสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ 3-5 คนทั่วไปมักเรียกท่านว่า ครูมีแขก สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงสืบประวัติไว้ว่า ครูปี่พาทย์ชื่อครูมีแขกนั้น คือเป็นเชื้อแขก ชื่อ”มี”
เป็นคีตกวีคนแรกที่นำเพลง 2 ชั้น มาทำเป็นเพลงสามชั้น มีความสามารถในการแต่งเพลง และฝีมือในทางเป่าปี่ เป็นเยี่ยม โดยเฉพาะเพลงเด่นที่สุดคือ “ทยอยเดี่ยว” จนทำให้ท่านได้รัมสมญานามว่า “เจ้าแห่งเพลงทยอย” ซึ่งหมายถึงเพลงที่มีเทคนิคการบรรเลงและลีลาที่พิสดาร โดยเฉพาะลูกล้อ ลูกขัดต่างๆ อีกเพลงหนึ่งคือเพลง “เชิดจีน” เป็นเพลงที่ให้อารมณ์สนุกสนาน มีลูกล้อลูกขัด ที่แปลกและพิสดาร ท่านแต่งบรรเลงถวายพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ซึ่งได้รับการโปรดปรานมาก จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “พระประดิษฐ์ไพเราะ” ตำแหน่งปลัดจางวางมหาดเล็ก
ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เป็นครูมโหรีของกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร นอกจากมีความสามารถในการเป่าปี่แล้ว ครูมีแขกยังชำนาญในการสีซอสามสาย โดยได้แต่งเพลงเดี่ยวเชิดนอกทางซอสามสายไว้ด้วย บทเพลงจากการประพันธ์ของท่านคือ เพลงจีนแส อาเฮีย แป๊ะ ชมสวนสวรรค์ การะเวกเล็ก แขกบรเทศ แขกมอญ ขวัญเมือง เทพรัญจวน พระยาโศก จีนขิมเล็ก เชิดในสามชั้น (เดี่ยว) ฯลฯ
ผลงานของท่านเป็นมรดกของดนตรีไทยมีมากมาย พอสรุปได้ดังนี้
1.เป็นผู้ริเริ่มเอาเพลง ๒ ชั้น มาทำเป็น ๓ ชั้น
2.ริเริ่มทำเพลงเดี่ยวสำหรับเครื่องดนตรี เพลงที่มีชื่อเสียงของท่านคือ ทยอยเดี่ยว
3.เป็นต้นฉบับเพลงทยอย เพลงทยอยเป็นเพลงที่มีเทคนิคการบรรเลงและลีลาที่วิจิตร
พิศดาร โดยประเภทลูกล้อ ลูกขัด เพลงประเภททยอยที่สำคัญ ซึ่งท่านแต่งไว้ คือ ทยอยนอก ซึ่งคงถือเป็นเพลงเอกของท่าน พระประดิษฐ์ไพเราะได้ประดิษฐ์เพลงนี้ขึ้นราวสมัยรัชกาลที่๔ ตอนต้นๆ
เหตุที่เรียกว่าทยอยนอกเป็นเพลงเอกก็เพราะ นอกเหนือจากความไพเราะแล้ว ท่านยังแทรกลูกเล่นไว้อย่างน่าฟัง มีทั้งเสียงหนัก เสียงเบา ล้อกันไปมาตลอดเวลา ถ้านักดนตรีคนใดบรรเลงเพลงนี้ไม้ได้ถือกันว่าฝีมือยังไม่ถึงขั้น
4.ดัดแปลงทำนองเพลงจีนขึ้นเป็นเพลงไทย สำเนียงจีนคือเพลงจีนแส อาเฮีย แป๊ะและ
ชมสวนสวรรค์
บทเพลงอื่นของท่าน คือ การะเวกเล็ก แขกบรเทศ แขกมอญ แขกมอญบางช้างขวัญเมือง
พระยาโศก เทพรัญจวน พระอาทิตย์ชิงดวง ทยอยเขมร จีนเก็บบุผา จีนขิมเล็ก นอกจากผลงานดังกล่าวแล้ว ท่านยังเป็นครูสอนปี่พาทย์ให้กับเจ้านายในรัชกาลที่๔ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองก็ทรงเรียนกับท่านในรัชกาลที่ ๕ หลังจากท่านได้เป็นครูมโหรีของสมเด็จกรมพระยาสุดารัตน์ราชประยูรไม่นานท่านก็ถึงแก่กรรม ท่านเป็นต้นสกุลของ ดุริยางกูร